การอบอุ่นร่างกายสำหรับกีฬาเซปักตะกร้อ
วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560
วิธีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
วิธีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
วิธีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เจริญ กระบวนรัตน์ (2549,
หน้า 51) ได้กล่าวไว้ดังนี้
1. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อง่ายๆ
เมื่อเริ่มต้นยืดเหยียดกล้ามเนื้อควรปฏิบัติยืดเหยียดง่ายๆ ไม่มี
การกระชาก เป็นการยืดจนถึงตำแหน่งที่รู้สึกสบาย
มีความตึงเล็กน้อย ผ่อนคลาย และค้างการยืดเหยียดไว้ 20-30 วินาที การรู้สึกถึงความตึงจะลดลง ที่จุดยืนค้าง
การยืดเหยียดเช่นนี้จะลดการตึงของกล้ามเนื้อ และเป็นการเตรียมเนื้อเยื่อให้พร้อมสำหรับการยืดเหยียด
เพื่อพัฒนาความอ่อนตัวที่มากขึ้น
2. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อการพัฒนา
หลังจากปฏิบัติการยืดเหยียดง่ายๆ ให้เพิ่มการยืดไกล
ออกไปจนกระทั่งรู้สึกตึงเล็กน้อย
และค้างไว้ 10-30 วินาทีและปฏิบัติซ้ำๆ
การปฏิบัติเช่นนี้จะก่อให้เกิดการพัฒนาของมุมการเคลื่อนไหว และเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความอ่อนตัวและเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมสำรับการออกกำลังกาย
ข้อสำคัญการยืดเหยียดกล้ามเนื้อควรปฏิบัติอย่างช้า และภายใต้การควบคุมไม่มีกระชาก
ไม่ก่อให้เกิดอาการปวดต่อกล้ามเนื้อและข้อต่อ แต่ทำให้เกิดการผ่อนคลายมีการหายใจเข้าออกช้าๆ
เป็นจังหวะไม่มีการกลั้นลมหายใจ ยืดค้างไว้ ณ ตำแหน่งที่มีความตึงและรู้สึกดี
และไม่ควรเปรียบเทียบความอ่อนตัวระหว่างนักกีฬาแต่ละบุคคล
ท่าการบริหารร่างกาย
ดังที่กล่าวข้างต้นแล้วว่าการฝึกซ้อมและการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ
จำเป็นต้องมีการอบอุ่นร่างกายก่อนเสมอ
เพราะมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเล่นกีฬา
ท่ากายบริหารร่างกายที่จำเป็นสำหรับการเตรียมอวัยวะส่วนต่างๆ
ของร่างกายฝึกตามกิจกรรม การอบอุ่นร่างกายของกีฬาตะกร้อ กรมพลศึกษา
กระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยว (2555, หน้า 35-39) ควรเริ่มจาการวิ่งช้าๆ กายบริหารร่างกาย จากนั้นจึงเป็นท่าเฉพาะ
สำหรับการบริหารร่างกายซึ่งสามารถทำได้ 2 แบบ ดังนี้
1.
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยตนเอง
2.
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อโดยผู้อื่นกระทำให้
ประโยชน์ของการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
ประโยชน์ของการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
ประโยชน์ของการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
เจริญ กระบวนรัตน์ (2549, หน้า 51) ได้กล่าวไว้ดังนี้
1. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถเพิ่มสมรรถภาพทางกายของนักกีฬา
2. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถเพิ่มความพร้อมทางด้านจิตใจ
3. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถเพิ่มความพร้อมทางด้านจิตใจ
4. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถส่งเสริมการพัฒนาสมาธิของนักกีฬา
5. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่มีต่อการก่อให้เกิดข้อพลิกหรือกล้ามเนื้อฉีก
6. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่มีต่อการก่อให้เกิดปัญหาภายหลังนักกีฬา
7. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถลดการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ
8. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถลดอาการเจ็บปวดที่รุนแรงของการมีรอบเดือน
9. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถอาการตึงกล้ามเนื้อของนักกีฬา
10.
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อจะเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวและความสามารถในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
ต้นขาด้านหลัง
และการเพิ่มในความสามารถของการยืดเหยียดกล้ามเนื้อจะสนับสนุนการเพิ่มขึ้นในความอดทนต่อการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
การเตรียมร่างกายก่อนการฝึกซ้อมและแข่งขัน
การเตรียมร่างกายก่อนการฝึกซ้อมและแข่งขัน
ก่อนการฝึกซ้อมและการแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ
นักกีฬาต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยการบริหารร่างกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
เอ็นและข้อต่อต่างๆ ของร่างกายให้พร้อมสำหรับการทำงานอย่างเต็มที่
ต้องมีการอบอุ่นร่างกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ
สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เจริญ กระบวนรัตน์ (2549,
หน้า 50) ได้ให้ความหมายการยืดเหยียดกล้ามเนื้อไว้ว่า
เป็นกระบวนการยืดยาวออกของกล้ามเนื้อ การยืดเหยียดของกล้ามเนื้อสามารถปฏิบัติได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมาย
ความสามารถ และสภาพการฝึกซ้อม การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเอ็นและข้อต่อ
ก่อนการออกกำลังกายจำเป็นต้องเตรียมให้พร้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเป็นการป้องกันการบาดเจ็บของอวัยวะเหล่านี้
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อทำให้มัดกล้ามเนื้อต่างๆ มีความตึง
ทำให้เส้นเอ็นยึดเกาะกับกระดูกและข้อต่อต่างๆ มีความยืดหยุ่นดีขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อพร้อมที่จะทำงานหนักกว่าปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเป็นการป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ
หลักการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
หลักการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
เจริญ กระบวนรัตน์ (2549, หน้า 50-51) ได้กล่าวไว้ดังนี้
1. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อควรทำก่อนการฝึกซ้อม
และภายหลังการฝึกซ้อม หรือการแข่งขัน
2. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
ต้องทำนุ่มนวลอย่างช้าๆ ทำค้างไว้
3. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
ควรยืดพอให้รู้สึกว่ามีความตึงของกล้ามเนื้อเอ็นและข้อต่อไม่ควรฝืนเมื่อรู้สึกเจ็บ
4. เลือกทำท่าที่ง่าย
ไม่ควรใช้ท่าที่ต้องทรงตัว หรือท่ายากเกินไป
5. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อควรทำทีละมัดกล้ามเนื้อ
ให้ครบทุกส่วนของร่างกาย
6. ควรเลือกท่าที่ไม่เป็นอันตรายต่อข้อต่อต่างๆ
หรือกระดูกสันหลัง
7. ควรเปลี่ยนท่าทำไปอย่างต่อเนื่องช้าๆ
วิธีการอบอุ่นร่างกาย
วิธีการอบอุ่นร่างกาย
นักกีฬาเซปักตะกร้อ
ต้องเรียนรู้วิธีการอบอุ่นร่างกายที่ถูกต้อง เพราะการอบอุ่นร่างกายที่ถูกวิธี
จะช่วยให้นักกีฬาได้รับผลดี สันติวัฒน์ พันทา (2548, หน้า 190) ซึ่งได้กล่าววิธีการอบอุ่นร่างกายดังต่อไปนี้
1.
การเลือกกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายค่อยๆปรับตัวเข้ากับสภาพที่ร่างกายต้องทำงานหนัก
2.
ท่าที่ใช้ในการอบอุ่นร่างกายต้องง่าย
ผู้เล่นไม่ต้องใช้ทักษะหรือการตัดสินใจที่ยุ่งยาก
3.
การอบอุ่นร่างกายจะต้องไม่ทำให้เกิดความเมื่อยล้า
เพราะการอบอุ่นร่างกายที่ดี จะทำให้ร่างกายมีความสดชื่น
4.
การอบอุ่นร่างกายไม่ใช่เวลานานเกินไป
5.
ควรเปลี่ยนท่าทางลักษณะการอบอุ่นร่างกาย
6.
วิธีการอบอุ่นร่างกายควรแตกต่างไปตามความสมบูรณ์ของร่างกายผู้เล่น
เช่น ผู้เล่นที่เหนื่อยง่ายควรอบอุ่นร่างกายช้าๆ ใช้เวลาน้อย
7.
การอบอุ่นร่างกายต้องให้ครบทุกส่วนของร่างกายตั้งแต่
เท้า ข้อมือ ขา ข้อเข่า หลังท้อง ด้านข้างลำตัว อกไหล่ คอ แขน ข้อมือ และนิ้วมือ
การอบอุ่นร่างกายในการฝึกซ้อมกีฬาทุกๆ
ประเภทนั้น นิยมทำการอบอุ่นร่างกายทั้งก่อนและหลังการฝึกซ้อม
การอบอุ่นร่างกายก่อนการฝึกซ้อมหรือที่เรียกว่า “วอร์มอัพ” (warm up) นั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการเตรียมให้ร่างกายมีความพร้อมที่จะรับการฝึก
ส่วนการอบอุ่นร่างกายภายหลังการฝึกซ้อม หรือที่เรียกว่า “คูล
ดาวน์” นั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับสภาพร่างกาย
ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ สำหรับนักกีฬาตะกร้อนั้น การอบอุ่นร่างกาย
ควรจะใช้ท่าอบอุ่นร่างกายที่สามารถเสริมสมรรถภาพให้กับร่างกายด้วย
โดยเน้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทักษะในกีฬาตะกร้อ ซึ่งการอบอุ่นร่างกายทั้งก่อน
และหลังการฝึกซ้อม ผู้ฝึกสอนควรจัดเตรียมไว้เป็นชุดๆ
เพื่อง่ายต่อการนำไปใช้ในการอบอุ่นร่างกายทั้งก่อนและหลังการฝึกซ้อม
หลักการอบอุ่นร่างกาย
หลักการอบอุ่นร่างกาย คือ
การเตรียมความพร้อมของกีฬาต่อการเล่น หรือการฝึกซ้อม
ก่อนการปฏิบัติกิจกรรมกีฬานั้นๆ
หากนักกีฬามีความพร้อมทางร่างกายจะช่วยลดอาการบาดเจ็บขณะแข่งขันได้เป็นอย่างมาก
ซึ่งวุฒิพงษ์ ปรมัตรถากร, และอารี ปรมัตรถากร (2531, หน้า 2) ได้ให้หลักการอบอุ่นร่างกายทั่วๆไป
ดังต่อไปนี้
1 เริ่มจากท่าง่ายไปหาท่ายาก
2. เริ่มจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นสู่บนก็ได้
3.
เริ่มจากท่าที่อยู่กับที่ไปจนถึงท่าที่ต้องเคลื่อนที่
4. ท่าที่ใช้แต่ละท่าควรทำติดต่อกันไป
5. เป็นท่าที่ต้องใช้มัดกล้ามเนื้อมัดใหญ่เป็นสำคัญ
6. เป็นท่าที่ใช้ฝึกเน้นเฉพาะส่วนของกล้ามเนื้อ
ที่ใช้ทักษะของการเล่นกีฬา
7. ท่าฝึกซ้อมควรเป็นท่าประจำ
หรืออาจจัดเป็นท่าชุดการฝึกซ้อมไว้หลากหลาย
8. ทำการอบอุ่นร่างกายทั้งก่อนและหลังการฝึกซ้อมหรือการแข่งขันเสมอ
9. ควรใช้เวลาในการอบอุ่นร่างกายไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
ตามความเหมาะสมและขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
10. การอบอุ่นร่างกายที่นำอุปกรณ์ออกกำลังกายมาช่วยเสริมจะให้ผลดีอย่างยิ่ง
ฉะนั้น
การอบอุ่นร่างกายนักกีฬาหรือผู้ฝึกสอนควรศึกษาหลักการอบอุ่นร่างกายให้ถูกต้องและเป็นไปตามหลักการซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับนักกีฬาอันเป็นประโยชน์กับทีมตะกร้อของตนเองไปด้วย
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)